Browse By

โหมด PVE ใน Whispers from the Star: ดันเจี้ยนต่างมิติ + ภารกิจรายสัปดาห์ (คู่มือครบที่สุดสำหรับสายลุย)

โหมด PVE ใน Whispers from the Star ถือเป็นหนึ่งในระบบที่ “ลึก” และ “ซับซ้อน” ที่สุดของเกม เพราะไม่ได้มีแค่การตีมอนเหมือนเกมทั่วไป แต่ผูกกับระบบ:

  • เสียงกระซิบ (Whisper Pattern)
  • Echo Combat
  • สภาวะของมิติ
  • เหตุการณ์ดาว
  • เฟสของดันเจี้ยน
  • ภารกิจรายสัปดาห์ (Weekly Missions)
  • ระบบรางวัลแบบสเกลตามระดับฝีมือ

ทำให้ PVE ของเกมนี้เป็นประสบการณ์ที่ทั้งสนุก ท้าทาย และให้ของรางวัลที่ “คุ้มที่สุดในเกม” โดยเฉพาะสำหรับผู้เล่นสายฟรี

การเข้าใจ PVE ดันเจี้ยนต่างมิติ และภารกิจรายสัปดาห์ จึงเป็นหัวใจของการพัฒนาตัวละครระยะยาว
และการวางแผนลงดันแบบฉลาด ก็เหมือนการวิเคราะห์ข้อมูลให้ครบ ก่อนตัดสินใจเลือกแนวทาง
คล้ายการใช้แพลตฟอร์มที่ช่วยให้มองภาพรวมได้ชัดเจน เช่นเข้าถึงทุกการเดิมพันได้ง่ายผ่าน ทางเข้า UFABET ล่าสุด เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ รองรับมือถือทุกระบบ เข้าเล่นได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่ช่วยให้ทุกการเลือก “เฉียบกว่า” เสมอ

บทความนี้จะเจาะลึกทุกระบบ PVE ให้ละเอียดที่สุด ตั้งแต่มิติพื้นฐานจนถึงมิติระดับ Celestial Rift

โหมด PVE ใน Whispers from the Star

ภาพรวมโหมด PVE: ทำไมถึงสำคัญมาก?

เพราะ PVE เป็นแหล่งสำคัญของ:

  • วัตถุดิบสำหรับคราฟต์
  • เศษดาวระดับ Rare–Celestial
  • Echo Crystal ทุกระดับ
  • อาวุธจากมิติ
  • EXP (จำนวนมาก)
  • วัตถุดิบบอสสำหรับปลุกพลัง (Awakening)
  • ไอเทมภารกิจรายสัปดาห์
  • Tokens สำหรับแลกรางวัลใหญ่

ผู้เล่นที่ลงดัน PVE เป็นประจำ จะพัฒนาตัวละครได้เร็วกว่าผู้เล่นที่เล่นแต่เนื้อเรื่อง 2–3 เท่า


ประเภทดันเจี้ยนในโหมด PVE ทั้งหมด

ใน Whispers from the Star ดันเจี้ยนจะแบ่งเป็น 6 ประเภทหลัก โดยแต่ละแบบมี “กฎของมิติ” ต่างกัน

  1. Echo Chamber – ดันพื้นฐาน เน้นฟาร์มผลึกเสียง
  2. Ancient Ruins – ดันโบราณสถาน เน้นวัตถุดิบหายาก
  3. Dimensional Rift – ดันฉีกมิติ กฎอยู่นอกเหนือเวลา
  4. Abyssal Domain – ดันเงามืด ระดับยากที่สุดต้น–กลางเกม
  5. Celestial Trials – ทดสอบดวงดาว เน้นคอมโบ–เสียง
  6. Time-Broken Expanse – มิติที่เวลาผิดเพี้ยน มีรางวัลพิเศษ

ต่อไปเราจะอธิบายแบบละเอียดและแนะนำเส้นทางลงดันที่ “คุ้มที่สุด” สำหรับแต่ละระดับผู้เล่น


1) Echo Chamber – ดันสำหรับฟาร์ม Echo Crystal ที่ดีที่สุด

เหมาะสำหรับ:
ผู้เล่นใหม่ – กลาง
ฟาร์มผลึกเสียง (Echo Crystal) | ฟาร์มเงิน | ฟาร์ม EXP

รูปแบบมิติ:

  • มอนเป็นกลุ่มใหญ่
  • พื้นมี Echo เสถียร
  • คอมโบเกิดง่าย
  • ดรอปผลึกระดับฆาตร (Common–Rare)

จุดเด่น:
✔ ใช้เวลาไม่นาน (4–7 นาที)
ได้ผลึกเยอะมาก
✔ ดรอปของคงที่
มอนตายง่าย

กลยุทธ์:

  • ใช้สกิลคอมโบแบบวงกว้าง
  • พก Allies สายซัพพอร์ต เช่น Lyra
  • ฟังเสียง Echo ให้เข้าจังหวะเพื่อคอมโบต่อเนื่อง

รายได้โดยประมาณ/รอบ:

  • 7–12 Echo Crystal
  • 800–1,600 Star Coins
  • วัตถุดิบเล็กน้อย

2) Ancient Ruins – ดันโบราณสถานเน้นหาวัตถุดิบระดับ Rare–Epic

เหมาะสำหรับ:
ผู้เล่นระดับกลาง–สูง
ฟาร์มของคราฟต์ (Rune Core / Polished Fragment / Stellar Glyph)

รูปแบบมิติ:

  • กับดักจำนวนมาก
  • Echo ผันผวน
  • ศัตรูต้านคอมโบ

จุดเด่น:
✔ วัตถุดิบขายได้ราคาแพง
ของสำคัญสำหรับคราฟต์อาวุธขั้นสูง
มีห้องลับที่ให้ชิ้นส่วนโบราณ

จุดต้องระวัง:
❌ การระเบิด Echo จากแท่นโบราณ
❌ เสียงเพี้ยนแบบหนักในห้องสุดท้าย

เคล็ดลับ:

  • ไปกับ Allies ที่อ่าน Echo ได้ เช่น Nira
  • ใช้ Chrono Echo เพื่อหลบกับดักเวลาเพี้ยน

3) Dimensional Rift – ดันฉีกมิติ: ท้าทาย + ของดีมาก

เหมาะสำหรับ:
ผู้เล่นที่พร้อมสู้กับกฎมิติแบบคาดเดาไม่ได้

กฎมิติใน Rift มี 3 แบบ:

กฎ 1: สลับตำแหน่ง (Spatial Swap)

ผู้เล่น–มอนจะถูกสลับตำแหน่งแบบสุ่ม
→ ต้องยืนระเบียบใหม่ตลอดเวลา

กฎ 2: มิติแยกตัว (Twin Reality)

ศัตรูแบ่งออกเป็น “ร่างจริง” และ “ร่างเงา”
ต้องตีร่างจริงเท่านั้นถึงจะตาย

กฎ 3: เวลาเบี้ยว (Temporal Shift)

เวลาเร็ว–ช้าแบบสุ่ม
สกิลบางท่าจะดีเลย์มาก–น้อยผิดปกติ

รางวัลเด่น:

  • Dimensional Alloy (คราฟต์อาวุธขั้นสูง)
  • Echo Rare–Epic–Legendary
  • Fragment แบบสุ่ม (ราคาแพงมาก)

เคล็ดลับ:

  • ใช้ Allies สายคอมโบ เช่น Kael
  • ฟังเสียง “กระตุก” ที่เป็นสัญญาณมิติเปลี่ยน

4) Abyssal Domain – ดันเงามืดระดับโหดสุดกลางเกม

เหมาะสำหรับ:
ผู้เล่นที่อาวุธเลเวล 25+
สายลุย / สายเงา / สายเวทดวงดาว

รูปแบบมิติ:

  • เงามีชีวิต
  • Echo เพี้ยนทุก 15–20 วินาที
  • บอสปล่อยเสียงแทรกให้คอมโบหลุด

รางวัลเด่น:

  • Umbra Core
  • Voidborn Remains
  • Abyss Fragment (ขายดีมาก)
  • อาวุธ Abyss Tier

กลยุทธ์:

  • ห้ามกดคอมโบรัว → บอสอ่านจังหวะง่าย
  • ต้องอ่านเสียง 3 ชั้น (Whisper Pattern)
  • ใช้แสงโจมตีบอสเพื่อหักพลังมืด

5) Celestial Trials – ดันสำหรับผู้เล่นเน้นคอมโบและ Echo

เหมาะสำหรับ:
ผู้เล่นที่ต้องการฝึกคอมโบขั้นสูง
และฟาร์มของ Celestial

รูปแบบมิติ:
ระบบ “ทดสอบจังหวะ” เช่น:

  • Echo Combo ไม่ถึง 20 = แพ้
  • ห้ามโดนตีเกิน 3 ครั้ง
  • ต้องใช้คอมโบตามสีที่กำหนด (Light/Shadow)

ของรางวัล:

  • Celestial Fragment
  • Starweave Fabric
  • พลังปลุกสกิล (Awakening Component)

เคล็ดลับ:

  • ต้องพก Allies ช่วยค้าง Echo
  • เน้นสกิล Light Echo / Memory Echo

6) Time-Broken Expanse – มิติพิเศษหายากที่สุด

เกิดเป็น Event เท่านั้น

จุดเด่น:

  • เวลาไหลเร็วขึ้น 300%
  • ของดรอปจำนวนมาก
  • EXP สูงมาก
  • มี Shard ของมิติเวลา (Time Thread)

เหมาะสำหรับ:

  • ผู้เล่นสายฟาร์ม
  • สายต่อสู้
  • สายต้องการวัตถุดิบ Chrono

ข้อควรระวัง:

  • ท่าบอสมีดีเลย์หลอก
  • Echo ผิดเพี้ยนหนักถ้าเข้าไปตอนเวลาผิดเฟส

ภารกิจรายสัปดาห์ (Weekly Missions) – แหล่งของรางวัลใหญ่ที่สุด

ภารกิจรายสัปดาห์คือระบบสำคัญมาก เพราะให้รางวัลที่ไม่สามารถหาได้จากการเล่นปกติ เช่น:

  • Weekly Star Tokens
  • Celestial Key
  • Resonance Core
  • Echo Legendary Shards
  • วัตถุดิบอัประดับอาวุธขั้นสุด

ภารกิจจะแบ่งตามระดับ:

ระดับความยากของรางวัล
ระดับ Aง่ายStar Coins / Crystal
ระดับ SปานกลางFragment Rare–Epic
ระดับ SSยากบอสชิ้นส่วน + Token
ระดับ CelestialโหดสุดLegendary Echo Shard

ภารกิจรายสัปดาห์ที่ “คุ้มที่สุด” มีดังนี้

⭐ 1) Echo Hunter Mission

ตีมอน 100 ตัว
→ ได้ผลึกเสียง 10–20 ก้อน
→ ขายได้กำไรมาก

⭐ 2) Abyss Purge Mission

กำจัด Abyss Creature 25 ตัว
→ ได้ Abyss Token (แลกอาวุธมืดได้)

⭐ 3) Celestial Alignment Challenge

ทำคอมโบ Echo 40 Hit
→ ได้ Celestial Fragment

⭐ 4) Star Resonance Trial Weekly

ทำคอมโบแบบ Burst ให้สำเร็จ 3 ครั้ง
→ ได้ Resonance Core (ใช้ปลุกอาวุธขั้นสูง)


โหมด PVE + ภารกิจรายสัปดาห์: วงจรสร้างตัวละครที่ดีที่สุด

วงจรที่ผู้เล่นระดับโปรใช้คือ:

  1. ลง Echo Chamber ฟาร์มผลึก
  2. ใช้ผลึกไปเพิ่ม Echo Skill
  3. ลง Ancient Ruins เพื่อหาของคราฟต์
  4. ลง Dimensional Rift เพื่อหา Fragment หายาก
  5. ทำภารกิจรายสัปดาห์เพื่ออาวุธขั้นสูง
  6. เอาอาวุธใหม่ไปลง Abyssal Domain
  7. ทำ Weekly อีก → วนต่อ

นี่คือวงจรแบบ “เกลียวพลัง” ที่ทำให้ตัวละครพุ่งแรงแบบก้าวกระโดด


การวางแผนลงดัน & ทำ Weekly อย่างฉลาดก็เหมือนการวางกลยุทธ์ที่ต้องใช้ข้อมูลให้ครบ ไม่ต่างจากการวิเคราะห์ผ่านแพลตฟอร์มที่อ่านง่ายและแม่น เช่นเล่นคาสิโนออนไลน์กับ ยูฟ่าเบท เว็บตรง มั่นคง ปลอดภัย ระบบทันสมัยที่สุด สมัครง่าย ไม่ผ่านเอเย่นต์ พร้อมโปรโมชั่นเด็ดทุกวันที่ช่วยให้การตัดสินใจทุกอย่างง่ายขึ้นมาก**


ทริคลับ PVE ที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่รู้

⭐ 1) มิติแต่ละแบบมีช่วง “Echo เสถียร” แค่ 3–5 นาที

เข้าลงดันตอนเสียงนิ่ง → รางวัลคูณ 1.2–1.5

⭐ 2) Allies ส่งผลต่อดันต่างมิติอย่างแรง

เช่น Aisha ทำให้เจอห้องลับเพิ่มอีก 10–20%

⭐ 3) บางดันให้ EXP คูณสองตอนเวลาเกมเที่ยงคืน (Star Internal Time)

⭐ 4) อย่าลงดันที่มีเสียงเพี้ยนหนัก

ของดรอปน้อยลงถึง 30%

⭐ 5) ทำ Weekly ก่อนวัน Reset จะได้โบนัสเพิ่ม

ระบบให้คูณเรตดรอปลับ


สรุป: ระบบ PVE ใน Whispers from the Star คือหัวใจของการพัฒนาตัวละคร

ไม่ว่าจะสายต่อสู้ สายเวท สายฟาร์ม หรือสายสำรวจ
คุณต้องลงดัน PVE และทำ Weekly ให้ครบทุกสัปดาห์เพื่อ:

✔ อัปเกรดอาวุธ
ได้เศษดาวระดับสูง
✔ ปลด Locked Systems
ได้ Echo Legendary
✔ ฟาร์ม EXP จำนวนนับไม่ถ้วน
หาไอเทมหายาก
✔ ปลุกพลัง (Awakening)

การเข้าใจรูปแบบของดันเจี้ยนต่างมิติ จะทำให้คุณเล่นเกมได้ “ลึกขึ้น” และฉลาดขึ้น
ไม่ต่างจากการใช้เครื่องมือช่วยวิเคราะห์สถานการณ์ที่แม่นและเข้าใจง่าย เช่นสนใจเริ่มต้นเดิมพันออนไลน์กับเว็บตรง สมัคร UFABET วันนี้ รับสิทธิพิเศษมากมาย ทั้งโบนัสแรกเข้าและระบบฝากถอนออโต้ รวดเร็ว ปลอดภัย 100%ที่ทำให้ทุกการตัดสินใจของคุณมีทิศทางและพลังมากขึ้น